เปิดผลงาน “แฟรงค์ แลมพาร์ด” ผู้จัดการทีมเลือดผู้ดี หลังโดน “เอฟเวอร์ตัน” สั่งเด้งพ้นตำแหน่งจากผลงานตกอับที่หล่นไปรองบ๊วยของตาราง เปอร์เซ็นต์ชนะละเหี่ยใจ
วันที่ 24 ม.ค. 66 เปิดผลงาน แฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีมชาวอังกฤษ หลังโดน “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตันสโมสรดัง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สั่งเด้งพ้นตำแหน่ง จากผลงานย่ำแย่ที่ตกไปรองบ๊วยของตาราง จากการมี 15 คะแนน จาก 20 นัด พอๆกับทีมบ๊วยของตารางอย่าง “นักบุญแดนใต้” เซาแธมป์ตัน แต่มีผลต่างประตูติดลบน้อยกว่า 5 ลูก
จากการที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด โดนตะเพิดพ้นเก้าอี้ ในครั้งนี้ ทำให้ตัวเขาคุมทีมไปทั้งหมด 44 นัด แต่กลับสามารถพาทีมคว้าแชมป์ได้แค่ 12 นัด พร้อมด้วยเสมอ 8 นัด และแพ้ถึง 24 นัด เลยทีเดียว
ทำให้ผู้จัดการทีม วัย 44 ปี มีเปอร์เซ็นต์คุม ทีมดังจากชายคา กูดิสัน ปาร์ค คว้าชัยชนะแค่เพียง 27.2% เท่านั้น
สำหรับ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน จะให้ เลห์ตัน เบนส์ ตำนานสโมสร ซึ่งปัจจุบันนี้ทำหน้าที่คุมทีมชุด ยู-18 และ ยู-21 และ พอล เทต โค้ชกองหน้าของทีม จะทำหน้าที่ดูแลทีมชั่วครั้งคราวไปก่อน และทีมมีโปรแกรมลงเล่นนัดถัดไปวันที่ 4 ก.พ.นี้
ด้วยการเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือน “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ 19.30 น. ตามเวลาไทย
ทนไม่ได้แล้ว เอฟเวอร์ตันปลด “แลมพาร์ด” เปิดเผย 2 สาเหตุทำว่างงาน-คาด 4 ตัวเก็งเสียบ
“4 กุนซือดังเต็งเสียบ” แฟรงค์ แลมพาร์ด โดน เอฟเวอร์ตันเด้งตกเก้าอี้แล้ว หลังจมท้ายตารางพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันที่ 23 ม.ค. 2566 สื่อดังหลายสำนัก ทั้ง บีบีซี, เดลี เมล, สกาย สปอร์ตส รายงานตรงกันว่า เอฟเวอร์ตันปลด แฟรงค์ แลมพาร์ด พ้นตำแหน่งผู้จัดการทีมแล้ว หลังพาทีมตกไปอยู่อันดับ 19 ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ชนะเพียงแค่ 3 นัดจาก 20 เกมที่ผ่านมา เก็บได้เพียงแค่ 15 คะแนน ห่างจากโซนไม่มีอันตราย 2 แต้ม อีกทั้งยังแพ้ 8 เกมจาก 9 นัดหลังสุดในทุกรายการ และยังมีข่าวว่าปะทะกับ อับดูลาย ดูคูเร กองกลางทีมชาติมาลีในห้องแต่งตัว และสนามซ้อม หลังแพ้ เซาแธมป์ตัน คาบ้าน เมื่ออาทิตย์ก่อนด้วย
รายงานกล่าวว่า แลมพาร์ด ถูกเรียกตัวเข้าไปคุยกับ ฟาร์ฮัด โมชิรี ผู้ครอบครองสโมสร, บิลล์ เคนไรท์ ประธานสโมสร รวมทั้ง เควิน เธลเวลล์ ผู้อำนวยการฟุตบอลในช่วงสุดสัปดาห์ หลังจบเกม พรีเมียร์ลีก นัดล่าสุดที่บุกไปแพ้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-2 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการตกลงและตัดสินใจแยกทางกันในที่สุด
สำหรับ แฟรงค์ แลมพาร์ด วัย 44 ปี เพิ่งเข้ามารับงานต่อจาก ราฟาเอล เบนิเตซ เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ปีที่แล้ว แต่ก็ยังทำผลงานได้ไม่เป็นที่น่าพอใจ ซึ่งฤดูที่แล้วหลังจากนั้นก็พาทีมจบอันดับ 16 พรีเมียร์ลีก รอดพ้นการตกชั้นแบบหวุดหวิด ทั้งที่ทุ่มงบซื้อนักเตะมหาศาล
ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน จะให้ เลห์ตัน เบนส์ อดีตแบ็กซ้ายระดับตำนานของทีม ซึ่งเดี๋ยวนี้เป็นโค้ชทีมชุดยู-18 และ พอล เทต โค้ชชุดยู-21 ทำหน้าที่คุมทีมชั่วครั้งคราวในระหว่างหากุนซือคนใหม่เข้ามารับช่วงต่อจาก แฟรงค์ แลมพาร์ด
ส่วนตัวเต็ง 4 อันดับแรกที่ เบ็ทแฟร์ บริษัทรับพนันถูกตามกฎหมายชื่อดังออกอัตราต่อรองว่าจะเข้ามาคุมเอฟเวอร์ตัน ประกอบด้วย ฌอน ไดช์ อดีตกุนซือเบิร์นลีย์, มาร์เซโล บิเอลซา อดีตนายใหญ่ลีดส์ ยูไนเต็ด, เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมเวสต์แฮม ที่เคยคุม “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ในปี 2002-2013 และ เวย์น รูนีย์ ตำนานนักฟุตบอลของสโมสร ที่ยังว่างงาน หลังแยกทางกับ ดาร์บี เคาน์ตี จากการพาทีมตกชั้นจากศึกแชมเปียนชิพ ลงสู่ลีกวัน
5 งานที่ แลมพาร์ด บางทีอาจได้ทำหลังโดน เอฟเวอร์ตัน ปลด
ทางระหว่าง เอฟเวอร์ตัน กับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด มาสู่จุดสิ้นสุดแล้ว หลังบอร์ดบริหาร “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ตัดสินใจเด้งผู้จัดการทีมฟุตบอลเลือดผู้ดีออกมาจากตำแหน่ง เมื่อวันจันทร์ที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา บวงสรวงผลงานสุดตกต่ำจนถึงเกินจะรับไหว
จำเป็นต้องยอมรับว่า เอฟเวอร์ตัน มีปัญหาฝังรากลึกมานานมาก ในการหาผู้จัดการทีมที่สมควร เพื่อนำสโมสรฟื้น โดยตอนที่พวกเขาแต่งตั้ง “แลมพ์ส” ก็คาดหวังว่าจะมองเห็นผู้จัดการทีมคนหนุ่มไฟแรงจะสามารถสร้างทีมให้ลืมตาอ้าปากได้บ้าง
แต่ตลอดตอน 12 เดือนที่ แลมพาร์ด กุมบังเหียน สถานการณ์ของ เอฟเวอร์ตัน มีแต่สาละวันเตี้ยลง โดยในฤดูกาลนี้เขานำสโมสรเสือกสนหนีตกชั้นเนื่องมาจากทีมรั้งอยู่อันดับ 19 ชนะเพียงแค่ 3 เกมจาก 20 แมตช์ มีเพียงแค่ 15 คะแนน
ยิ่งไปกว่านั้น แลมพาร์ค คุมทัพแพ้ 8 เกมจาก 9 แมตช์หลังสุดในทุกรายการ โดยฟางเส้นสุดท้ายขาดสะบั้นเมื่อสโมสรแพ้ให้กับ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-2 เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ในการตกงานครั้งที่สองของ แลมพาร์ด หลังเคยโดน เชลซี ปลดมาแล้วคราวแรก แต่ก็ใช่ว่าเจ้าตัวจะไม่มีใครสนใจ ด้วยเหตุว่ามีความเป็นไปได้ที่มี 5 งานพร้อมที่จะมอบโอกาสใหม่ให้กับเขาอีกรอบ
- สวอนซี
- ดาร์บี้ เคาน์ตี้
- สโต๊ค ซิตี้
- ทีมชาติอังกฤษ ยู-21
- กูรูลูกหนัง