หลังจากออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก แฉ 4 พี่น้อง บ. ทำธุรกิจเว็บพนันใหญ่ พร้อมบอกฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สปายดำเนินการกันด้วย ก็ทำเอา “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” เป็นเป้าสงสัย ว่าที่เจ้าตัวออกมาโพสต์อย่างนี้ ไม่กลัวมีปัญหาเหรอ รวมทั้ง คนไม่ใช่น้อยต่างออกมาตั้งข้อสังเกตว่า วัตถุประสงค์ในคราวนี้ของดิว คืออะไรกันแน่ ปัจจุบัน ดิว อริสรา ได้ออกมาชี้แจง ผ่านเฟซบุ๊กอีกครั้งว่า….
“สวัสดีค่ะ หลายวันที่ดิวหายไป ไม่ได้มีโอกาสออกมาพูด หรือ ชี้แจงอะไรเนื่องจากว่า ดิวติดธุระส่วนตัว รวมทั้ง มีหลายอย่างที่จำต้องตระเตรียมให้เป็นระเบียบ
วันนี้มีเวลา เลยขออนุญาต มาแจกแจงปัญหา รวมทั้ง ตอบปัญหาบางคำถาม ผ่านทาง Facebook ส่วนตัว เพื่อจะได้ไม่เป็นการก่อกวนคนรอบข้างตัวดิว ให้จำเป็นต้องมานั่งตอบปัญหาต่าง ๆ พวกนั้น
(ยาวหน่อยนะคะแต่อยากที่จะให้อ่านให้จบ)
ประการแรก ดิวจำเป็นต้องขอบพระคุณ สำหรับความห่วง ทั้งจากคนที่รู้จัก และ ไม่รู้จักสำหรับในการกระทำคราวนี้ ที่ดิวออกมาโพสต์แชร์ข้อมูลต่าง ๆ (เป็นความจริง) ขอบคุณมากจากใจมาก ๆ นะคะ แต่ดิวอยากจะบอกว่า ดิวคิดทบทวนตรองมาอย่างดีแล้ว และ เวลานี้ ดิวมีความสุข ปลอดภัยดี สามีดิว ตัวดิว ครอบครัวเราทำอาชีพปกติ เงินสะอาด และ ไม่มีอะไรจำต้องกลุ้มอกกลุ้มใจ หลบซ่อน หรือ บอกง่าย ๆ คือ บ้านพวกเราไม่มีอะไรที่ผิด ให้ย้อนกลับมารังควานเราได้เลย แล้วก็ ดิวไม่ได้จะไม่กลับประเทศไทยนะคะ กลับแน่นอน ดิวขอขอบคุณมากทุก ๆ ความห่วง และก็ ความห่วงในความปลอดภัยของดิว และ ครอบครัวนะคะ
จากการกระทำของดิว … ดิว ไม่ได้ต้องการความอวยยศ ชื่นชม ยกยอ และขอชี้แจง กรณี แฉ 4 พี่น้อง ตรงนี้ว่า
ดิวไม่ได้ทะเลาะกับใคร และ ไม่ได้ต้องการอะไรจากใคร จากในสิ่งที่พูด ไปมากกว่า ด้วยวัน แล้วก็ ในช่วงเวลาที่เห็นสมควร แล้วก็ ขอเป็นกระบอกเสียง ๆ หนึ่ง ที่ไม่ต้องการแค่เป็นคนที่ รับทราบ มองเห็น และปล่อยผ่าน กับเรื่องที่ผิด และก็ปลดปล่อยผ่านมันไป กระทั่ง เรื่องที่ผิด กลายเป็น เรื่องปกติ ที่สังคมมองว่าทั่วๆไป จนมันกลายเป็นคำว่า “ผิด” เป็น “ถูก”
สำหรับเรื่องราวในอดีต ของดิวกับใคร อดีต คือ อดีต ที่ดิวผ่านมา และดิวไม่ขออภัยใคร ไปมากกว่าตัวเอง ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเอ่ยถึง คิดกันไปไกล
เนื่องจากว่าประเด็นมัน คือแค่ สิ่งที่ดิวทำ ดิวมีคำถามที่มีในใจตัวเองตลอดมาว่า หากพวกเราทราบ เราเห็นว่า อะไรที่มัน ไม่ดี ไม่ถูก ไม่ควร ผิดที่ผิดทาง และก็เราปล่อยมันไป ปล่อยมันไว้ แล้วเมื่อใดอะไร ๆ ในสังคม และ สิ่งที่เราต้องอยู่ มันจะดียิ่งขึ้นสักที
ดิวเชื่อว่า ในมุมมองหลายคน บางอย่างบางอย่าง มันเรื่องที่แปลงยาก แต่หากไม่เริ่ม มันก็คงจะไม่มีวันแปลง รวมทั้ง เราจำเป็นต้องอยู่กันแบบนี้ จริงหรอ? คำถามคือ ถ้าจริง เด็ก หรือใครก็ตามที่เติบโตมา และก็จะต้องอยู่ในสังคม ที่มีอะไรอย่างนี้ มันจะหมดกำลังใจแค่ไหน
ถ้าหากคนที่ทำผิด มีชีวิตที่ดีเผยตนเอง ออกหน้าแบบปกติทั่วไป คนที่ทำดีทำถูก ทำมาหากินซื่อสัตย์ สู้กับชีวิตไปแต่ละวัน จะท้อใจขนาดไหน เพราะเหตุว่าดีเท่าไร มันก็อาจไม่ทัน คนที่ทำผิด แล้วก็ รวยทางลัด กับสิ่งที่ผิดอยู่ดี
ชีวิตมนุษย์บางทีก็อาจจะอยู่ที่ช่องทาง รวมทั้งช่องทางแต่ละคน มีไม่เหมือนกัน แต่ดิวมั่นใจว่าคนทุกคนอยากประพฤติดี ให้ยอดเยี่ยมให้กับชีวิตตนเองอยู่แล้ว คนทุกคนเลือกได้… คำถามคือ สำหรับคนที่ทำผิด ที่ทราบว่าสิ่งที่ทำมันผิด รวมทั้ง ยังเลือกทำผิดกันทั้งครอบครัว และ กล้าดำรงชีวิตแบบคนสามัญ ในแบบฉบับ “รวยผิดปกติ” มันถูกต้อง ถูกที่ ถูกทางแล้วหรอ
อย่างไรก็ตาม ดิวเชื่อ และก็มีความหวังว่า กระบวนการยุติธรรม รวมทั้ง ตำรวจไทย เก่ง มีความเข้าใจ แล้วก็ความเที่ยงธรรมมากพอ ที่จะจัดแจง ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงในอะไรที่ผิด ให้อยู่ถูกที่ ดิวเชื่ออย่างนั้นนะ จากข่าวก่อนหน้านี้ และการเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ เรื่องก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ของประเทศพวกเรา
สุดท้าย ดิวอยากบอกทุกคนที่เป็นห่วงดิว ให้เข้าใจดิวว่า
ข้อคิดเห็นในด้านลบ หรือ โพสต์ต่าง ๆ ที่ออกมาตีกลับจากสิ่งที่ดิวทำ มันมิได้ทำให้ดิวรู้สึกอะไร เพราะมันเป็นเรื่องปกติ ที่ เหรียญย่อมมี 2 ด้านเสมอ ดิวรู้เรื่องความจริงนี้ดี และไม่ขอสนใจ เนื่องจากดิว มีจุดยืน แล้วก็เข้าใจตนเองมากพอ
ดิวทราบดีว่าสิ่งที่ทำมันค่อนข้างเสี่ยง
เนื่องจากว่า 4 พี่น้อง มีคนนึงเป็นตำรวจ ที่ใช้เส้นเข้าไป ก็ถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพล ตำรวจที่ขับขี่รถสปอร์ตไปดำเนินงาน แต่ถ้าเกิดตัวดิวไม่เสี่ยงทำ ทุกอย่างก็คงไม่มีอะไร ที่แปลงแต่กลับแย่ลง
ขอบคุณทุกความสนใจ ขอบคุณทุกคนที่เข้าใจ ขอบคุณทุกคน ที่ชื่นชม ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง ขอบคุณจริง ๆ
ขอฝากความหวัง และเป็นกำลังใจให้กับพี่ ๆ อา ๆ ตำรวจไทย และก็ นักสืบโซเชียล คนเก่งทั้งหลาย ช่วยเหลือกันปฏิบัติงาน แล้วก็สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดียิ่งขึ้นกับสังคมไทยนะคะ
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ ฝากแชร์ด้วยคะ
ปล. สำหรับคนที่มอง แล้วก็สนใจประเด็น สำหรับเพื่อการโพสต์ของดิว ให้แง่มุมอื่น ดิวแค่อยากจะบอกว่า สิ่งที่สนใจ มันไม่ได้ทำให้เกิดคุณประโยชน์อะไร แต่สิ่งที่ดิวสื่อ ถ้าเกิดมันได้รับการแก้ไขเปลี่ยน มันจะเกิดคุณประโยชน์ ต่อสังคมแน่นอนค่ะ”