ชายคนหนึ่ง ก่อเหตุ กราดยิง ผู้คนเสียชีวิต 10 ราย รวมทั้ง บาดเจ็บอย่างน้อย 10 คน ในห้องบอลรูมแห่งหนึ่ง ระหว่างงานฉลองตรุษจีน ในตอนค่ำ วันเสาร์ (21 เดือนมกราคม) ใกล้ลอสแองเจลิส สหรัฐฯ ก่อนแอบหนีไปจากจุดเกิดเหตุ
มือปืน อยู่ระหว่างแอบหนี หลังจากก่อเหตุในเมืองมอนเทรีย์ พาร์ค รัฐแคลิฟอร์เนีย รวมทั้ง อ้างอิงจากคำให้การของพวกผู้ที่เห็นเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายมั่นใจว่า ผู้ร้ายน่าจะเป็นชายชาวเอเชีย อายุระหว่าง 30 ถึง 50 ปี
“เรา จำเป็นต้องเอาตัวบุคคลรายนี้ ออกจากท้องถนนให้เร็วที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ ” โรเบิร์ต ลูนา เจ้าหน้าที่รักษากฎหมายลอสแองเจลิส เคาน์ตี บอกกับผู้สื่อข่าว ระหว่างแถลงข่าวใน วันอาทิตย์ (22 ม.ค.) ที่มอนเทรีย์ พาร์ค หนึ่งในชุมชนคนประเทศอเมริกาเชื้อสายทวีปเอเชีย ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา
ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ในเวลาเช้าวันเดียวกัน หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ระบุ ยังไม่เคยทราบว่า การจู่โจมคราวนี้มีแรงจูงใจด้านผิวสีหรือเปล่า โดยในเหยื่อคนเสียชีวิต 10 รายนั้น แบ่งเป็นชาย 5 คน รวมทั้ง หญิง 5 คน แต่ไม่มีการเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนาม ต่อสาธารณะแต่อย่างใด
จากเหตุ กราดยิง ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย เผยแพร่ภาพผู้ต้องสงสัย ที่บันทึกไว้ได้โดยกล้องวงจรปิด
ประสบพบเห็นเขาสวมแว่นตา สวมเสื้อแจ็กเกตสีแก่ รวมทั้ง หมวกไหมพรมสีแก่ลายขาว แล้วก็ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย กล่าวว่าพวกเขาเผยแพร่รูปถ่ายกลุ่มนี้ ในความมานะบากบั่นระบุตัวตน ของผู้ต้องสงสัย รวมทั้ง ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยถูกมองในฐานะ “ติดอาวุธ และ อันตราย”
ช่วงเวลาสายของ วันอาทิตย์ (22 ม.ค.) ห่างจากเมืองทอร์แรนซ์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ราว 34 กิโล ตำรวจใช้ยานยนต์หุ้มเกราะหลายคัน ล้อมรถตู้ผลิตภัณฑ์สีขาวคันหนึ่ง ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับผู้ต้องสงสัย
เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย กล่าวมาว่า พบชายคนหนึ่งที่คล้ายกับผู้ต้องสงสัยในทอร์แรนซ์ รวมทั้ง มีบุคคลรายหนึ่งอยู่ภายในยานพาหนะดังกล่าว “เราไม่ทราบสภาพของพวกเขา ซึ่งเขาอาจเป็นผู้ต้องสงสัยของเรา หรือไม่? มันก็มีความเป็นไปได้”
เวลาเดียวกัน เจ้าหน้าที่ กำลังสอบปากคำว่า สถานะการณ์หนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นในสถานที่เต้นรำ อีกแห่งในเมืองอาลัมบรา ที่อยู่ติดกันราว 20 นาทีต่อมา ในคืน วันเสาร์ (21 ม.ค.) มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรมหมู่ที่มอนเทรีย์ พาร์ค หรือไม่ หลังผู้รู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ประสบพบเห็นชายชาวเอเชียคนหนึ่ง ถือปืนเข้าไปในงาน แต่ถูกผู้ที่มาร่วมงานช่วยเหลือกันจับตัวไว้ ไม่มีการลั่นไกออกมา และ ชายคนนี้แอบหนีไปได้
มีคนได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 10 รายถูกพาตัวส่งโรงพยาบาลท้องถิ่น เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ แล้วก็มีอย่างน้อย 1 คน อาการสาหัส ตำรวจไม่ได้เปิดเผยว่าผู้ร้ายใช้อาวุธปืนชนิดใดในการก่อเหตุ
เหตุกราดยิงคราวนี้เกิดขึ้นตอน 22.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับประเทศไทย 13.00 น.วันอาทิตย์) ในเมืองที่มีการจัดงานฉลองตรุษจีน มีการปิดท้องถนนหลายสายในบริเวณใจกลางเมือง เพื่อจัดงานเฉลิมฉลอง ซึ่งเย้ายวนใจผู้มาร่วมงานหลายพันคน มาจากเซาเทิร์น แคลิฟอร์เนีย แล้วก็ หลังจากเกิดเหตุ ตำรวจเผยว่าแผนงานฉลองสำหรับ วันอาทิตย์ (22 เดือนมกราคม) ถูกยกเลิก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เชสเตอร์ ชอง ประธานหอการค้าจีน แห่งลอสแองเจลิส ให้ความหมายเมืองที่มีประชาชนกร ราว 60,000 คน แห่งนี้ว่า เป็นสถานที่ ที่เงียบสงบ และก็งาม ที่ทุก ๆ คนรู้จักกัน รวมทั้ง ช่วยเหลือเจือจานกันและกัน
เมืองแห่งนี้ ซึ่งอยู่ห่างจากย่านใจกลางลอสแองเจลิส ราว 11 กิโลเมตร เป็นที่รู้จักกันมานาน หลายทศวรรษ
ว่า เป็นจุดหมายปลายทางของคนเข้าเมืองจากจีน โดยในบรรดาประชากรทั้งหมดนั้น มีถึง 65% ที่เป็นชาวเอเชีย แล้วก็ เมืองแห่งนี้ ยังลือชื่อด้านการมีร้านอาหารจีน รวมทั้ง ร้านขายของชำจีนเป็นจำนวนมาก “ผู้คนที่โทร. หาผมเมื่อคืนนี้ พวกเขาหวั่นกลัว ว่ามันอาจเป็นอาชญากรรมจากความเกลียดชัง” ชอง กล่าว
ตำรวจมิได้เปิดเผยชื่อสโมสรเต้นรำแห่งนี้ แต่พบเห็นเจ้าหน้าที่เข้า ๆ ออก ๆ “สตาร์บอลรูม แดนซ์ สตูดิโอ” ซึ่ง ทางเข้าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้เทปขวาง คลับแห่งนี้เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 1990 แล้วก็ บนเว็บของพวกเขาเป็นรูปถ่ายงานฉลองเทศกาลวันตรุษจีนปีที่ผ่าน ๆ มา ซึ่งพบเห็นเพื่อนร่วมงานยิ้มแย้ม และเต้นรำ ในชุดปาร์ตี้ ในห้องบอลรูมขนาดใหญ่ และ ประดับไฟสว่างไสว
คุณครูราน หนึ่งของชมรมเต้นรำแห่งนี้ ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ เล่าว่า ลูกค้าจำนวนมากเป็นวัยกลางคน หรือ สูงอายุ แต่มีเด็กร่วมในคลาสสอนเต้น สำหรับเยาวชนเหมือนกัน
ใบปลิวที่โพสต์บนเว็บ เป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์ งานปาร์ตี้ วันตรุษจีน ในคืนวันเสาร์ (21 มัธยมค) เริ่มตั้งแต่เวลา 19.30 น. ถึง 00.30 น.
ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้รับฟังรายงานสรุปเกี่ยวกับเหตุจู่โจมครั้งนี้แล้ว แล้วก็ได้สั่งการให้ เอฟบีไอ เข้าช่วยเหลือตำรวจท้องถิ่น
เหตุกราดยิงกลับมาเกิดขึ้นหลายครั้งในสหรัฐฯ รวมทั้งเหตุจู่โจมในมอนเทรีย์ พาร์ค ถือว่าเป็นการกราดยิงเข่นฆ่าชีวิตมนุษย์มากที่สุด นับตั้งแต่ พ.ค. 2022 โดยคราวนั้นมือปืนฆ่านักเรียน 19 คน รวมทั้ง คุณครู 2 ราย ที่สถานศึกษาแห่งหนึ่ง ในเมืองอูวัลเด เมืองเทกซัส
ส่วนเหตุกราดยิงที่นองเลือดที่สุด ในประวัติศาสตร์ของแคลิฟอร์เนีย เกิดขึ้นในปี 1984 โดยมือปืนลงมือสังหารผู้คนไป 21 ราย ที่ร้านแมคโดนัลด์ สาขาหนึ่งในเมือง ซานอิซิโดร ใกล้กับซานดิเอโก
(ที่มา : รอยเตอร์)