“จาก 24 เหลือ 21 คน” ฝรั่งเศส มีนักเตะเจ็บไข้เพิ่มเป็นคนที่ 3 ลุ้นหนักก่อนตัดสินแชมป์ ฟุตบอลโลก 2022 กับ อาร์เจนตินา อาทิตย์นี้
วันที่ 15 ธันวาคม 2565 ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ผู้จัดการทีมชาติฝรั่งเศส การันตีว่า คิงส์เลย์ โกมาน ปีกจากสโมสรบาเยิร์น มิวนิก กลายเป็นนักฟุตบอลคนที่ 3 ต่อจาก ดาโยต์ อูปาเมกาโน และ อาเดรียง ราบิโอต์ ที่ป่วยจากอาการไข้เมื่อเวลาเช้าที่ผ่านมา หลังจบเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ ที่เอาชนะ ทีมชาติโมร็อกโก 2-0 เมื่อวานนี้ (14 ธ.ค.)
ทั้งนี้ ราบิโอต์ และ อูปาเมกาโน ป่วยไข้มาตั้งแต่หลังจบเกมรอบ 8 ทีม ที่ชนะ ทีมชาติอังกฤษ 2-1 เมื่อวันที่ 10 เดือนธันวาคม ซึ่งรายแรกมีลักษณะอาการหนักที่สุดจนถึงไร้ชื่อแม้กระทั่งผู้เล่นสำรองในรอบรองชนะเลิศ และจำเป็นต้องแยกตัวออกมาจากเพื่อนร่วมทีม ขณะที่รายหลังยังมีชื่อบนม้านั่งสำรอง แต่ก็ไม่ได้ลงเล่นแม้แต่นาทีเดียว
ขณะที่ โกมาน ก็มีชื่อเป็นตัวสำรองที่ผิดใช้งานในเกมชนะ โมร็อกโก เช่นเดียวกัน แต่ปัจจุบันปีกวัย 26 ปี ก็มีลักษณะคล้ายกับ ราบิโอต์ และ อูปาเมกาโน ซึ่ง เดส์ชองส์ อธิบายจากการวินิจฉัยของทีมแพทย์ในระยะแรกว่าสาเหตุเกิดขึ้นจากกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ มีอุณหภูมิต่ำลง
และ ยังเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดระยะเวลา ทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน และยังต้องเฝ้าระวังว่าจะไม่ใช่อาการที่เกิดจาก ไข้หวัดใหญ่อูฐ (Camel Flu) ซึ่งอาจจะทำให้ผู้เล่นป่วยไข้ขั้นร้ายแรงได้
เดส์ชองส์ ทิ้งท้ายว่าได้มีการแยกทั้ง 3 คนออกมาจากเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆแล้ว เพื่อป้องกันการกระจายเชื้อ ซึ่งก่อนหน้านี้ ฝรั่งเศส ก็เหลือผู้เล่นเพียงแค่ 24 คน จากการประกาศรายชื่อ 26 คน หลังจาก คาริม เบนเซมา ดาวยิงเรอัล มาดริด เจ็บระหว่างฝึกก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ และไม่ได้เรียกคนใดมาแทน ก่อนที่ ลูกัส แอร์กน็องเดซ กองหลังบาเยิร์น จะเจ็บในเกมแรกที่ชนะ ออสเตรเลีย 4-1
ทำให้ เดส์ชองส์ จะต้องลุ้นอย่างมากว่า ราบิโอต์, อูปาเมกาโน และ โกมาน จะหายป่วยทันกลับมาช่วยทีมเจอ ทีมชาติอาร์เจนตินา ในฟุตบอลโลก 2022 รอบชิงแชมป์ วันอาทิตย์ที่ 18 เดือนธันวาคมนี้ เพื่อลุ้นแชมป์โลก 2 ยุคติดต่อกัน หลังจากได้แชมป์ในปี 2018 ที่รัสเซีย
ระบาดเพิ่ม! ฝรั่งเศส เครียดนักเตะป่วยไข้ก่อนชิงบอลโลก
ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติ ฝรั่งเศส มีเรื่องมีราวให้เครียดเพิ่มขึ้นแล้วก่อนเกมชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2022 ปะทะกับ อาร์เจนติน่า ในวันอาทิตย์นี้เพราะว่านักฟุตบอลในทีมเจ็บป่วยกันเพิ่มขึ้น
ฝรั่งเศส ประสบความสำเร็จเข้าชิงชนะเลิศได้อีกยุคเสมือนเมื่อสี่ปีก่อนที่พวกเขาเป็น แชมป์โลก ด้วยเหตุว่าเอาชนะ โมร็อกโก ทีมม้ามืดลงได้ด้วยสกอร์ 2-0 สำหรับการฟาดแข้งรอบตัดเชือกคู่หลังเมื่อวันพุธที่ 14 ธันวาคม
อย่างไรก็ตาม ในเกมฟาดเกือกกับทีมจาก แอฟริกา เดส์ชองส์ ต้องเปลี่ยนแปลงโผ 11 คนแรกจากนัดชนะ อังกฤษ ในรอบแปดทีมสองรายด้วยเหตุว่า ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ กับ อาเดรียง ราบิโอต์ เป็นไข้ไม่สามารถลงเล่นได้ และทำให้ อิบราฮิม่า โกนาเต้ กับ ยุสเซฟ โฟฟาน่า ได้เสียบแทน แต่ทั้งคู่โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจด้วยกันทั้งสอง
ต่อปัญหาในแคมป์ทีมตราไก่ เดส์ชองส์ ยอมรับว่ามีเรื่องเครียดมากเพิ่มขึ้นด้วยเหตุว่า คิงส์ลีย์ โกมัน เป็นนักเตะอีกรายที่เจ็บป่วยจนถึงทำให้เขาไม่อาจลงเล่นเป็นตัวสำรองได้ในเกมบู๊กับ โมร็อกโก ซึ่งคือปัญหาที่ ฝรั่งเศส จะต้องปรับแต่งให้ได้ก่อนดวลกับทีม ฟ้าขาว
“เรามีเวลาสี่วันก่อนลงเล่นเกมหน้า ดังนั้นเขาน่าจะพร้อมสำหรับวันอาทิตย์” เดส์ชองส์ เอ่ยถึงกรณีของ โกมัน ที่ติดเชื้อเพิ่มในทีม
“ตอนนี้มันเป็นไข้ประจำฤดู เราต้องระมัดระวังเพราะภูมิคุ้มกันของพวกเขาลดต่ำลงนิดหน่อย”
“อุณหภูมิในสองสามวันหลังลดต่ำลงด้วย และคุณจำเป็นต้องระวัง แต่นอกนั้นหากไม่ใช่เรื่องไวรัส เราไม่ได้มีอะไรให้เป็นกังวล”
ช่วงเวลาเดียวกัน นายใหญ่ทีมตราไก่แสดงทัศนะว่าการเล่นฟุตบอลในสนามที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศซึ่งทำให้ระบบหมุนเวียนของอากาศไม่ดีพอน่าจะเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ทีมของเขามีการติดเชื้อกันในหมู่นักเตะราวกับที่ทีมชาติ บราซิล เผชิญเช่นเดียวกันในตอนต้นทัวร์นาเมนต์
ด้านทีมชาติ สวิตเซอร์แลนด์ ก็เผชิญกับปัญหาเดียวกันนี้โดยนักเตะคนสำคัญสองรายจะต้องพลาดเกมในรอบแบ่งกลุ่มบู๊กับ เซอร์เบีย หลังจากนักเตะในทีมป่วยกันหลายราย
รายงานข่าวเสริมว่า ราบิโอต์ มีลักษณะหนักกว่า อูปาเมกาโน่ เหตุเพราะไม่มีชื่อนั่งเป็นตัวสำรองในเกมตัดเชือก และต้องกักตัวอยู่ด้านในห้องพักของโรงแรมหลังมีไข้สูง เจ็บคอ และไอแห้ง
“เบนเซม่า” ไม่คิดคัมแบ็กช่วยฝรั่งเศสบู๊นัดชิงฯฟุตบอลโลก
นักข่าวชาวฝรั่งเศส ออกมาดับเทียนด้วยการยืนยันว่า คาริม เบนเซม่า จะไม่คัมแบ็กกลับมาช่วยทีมชาติฝรั่งเศส ลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2022 กับ อาร์เจนติน่า อย่างแน่แท้
โดย โลร็องส์ พูดว่า เขาไม่รู้เหมือนกันว่า ใครเป็นคนสร้างเรื่องนี้ขึ้นมา และไม่รู้ว่า มันมาจากไหน เพราะเขาว่าทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่า คาริม กลับไปแล้ว แล้วจะไม่กลับมาอีก ที่สำคัญ คาริม เพิ่งจะเริ่มซ้อมกับ เรอัล มาดริด อีกครั้ง ดังนั้นจึงไม่ฟิตสำหรับนัดชิงชนะเลิศแน่นอน เขาไม่ได้อยู่ที่นี่มา 3 สัปดาห์แล้ว ดังนั้นมันจะไม่ยุติธรรมมากๆ กับทีมชุดปัจจุบัน มาร์คัส ตูราม และ ร็องดาล โคโลมูอานี่ ที่เพิ่งทำประตูจากการสัมผัสบอลครั้งแรกหลังลงสนาม 40 วินาที จะคิดอย่างไร ถ้า เดส์ชองส์ เดินมาบอกว่า คาริม จะได้ลงสนามในนัดชิงฯ ก่อนพวกเขา มันเป็นเรื่องที่บ้ามาก และไม่มีทางเลยที่จะเกิดขึ้น